วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

บุกร้านอาหารเหนือ @เฮือนลำพูน

สวัสดีเจ้าาา อย่าเพิ่งแปลกใจที่วันนี้เนมีมาทักทายสไตล์สาวเหนือ เพราะวันนี้ ร้านที่เนมีจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักคือร้านอาหารที่เน้นไปทางอาหารเหนือนั่นเองค่ะ แต่สำหรับใครที่อยากทานอาหารอีสานพวก ส้มตำ ลาบ ต้มแซ่บ ที่นี่ก็มีให้นะคะ :)

ร้านที่เนมีไปวันนี้มีชื่อว่าร้าน เฮือนลำพูน ค่ะ คิดว่าหลายๆคนก็น่าจะเคยได้ยินชื่อหรือบางคนก็อาจจะเคยไปกันมาบ้างนะคะ
ร้านเฮือนลำพูนมีทั้งหมด 2 สาขานะคะ สำหรับสาขาที่เนมีไปวันนี้เป็นสาขาราชพฤกษ์หรือร้านเดิมคือร้านเอื้องดอยค่ะ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 10.30 - 22.30 น. นะคะ บรรยากาศดีค่ะ ร่มรื่น แต่สำหรับใครที่กลัวร้อนหรือไปตอนค่ำๆหน่อยแล้วกลัวยุงกัด ทางร้านก็มีห้องแอร์ให้ด้วยเช่นกันค่ะ





บรรยากาศการจัดร้านของร้านเฮือนลำพูนก็จะดูเป็นธรรมชาติค่ะ ดูสบายๆดี พอเดินเข้าไปในร้านก็จะมีพนักงานคอยต้อนรับและเดินนำเราไปที่โต๊ะพร้อมวางใบสั่งอาหารไว้ให้เราคู่กับเมนู คือเราดูเมนู แล้วก็วงกลมเอาเองหรือถ้าใครจะขีดเส้นใต้เอาก็ได้นะคะ อันนี้ไม่มีโจทย์กำหนดค่ะ
สำหรับเมนูอาหารคาวที่เนมีสั่งไปวันนี้ก็มีน้ำพริกอ่องผักลวก ตำขนุน แคบหมู ลาบคั่ว ตำซั่วปูปลาร้า แล้วก็ไก่ทอดชุดเล็กค่ะ ส่วนเครื่องดื่มก็เป็นน้ำมะนาวคั้นกับน้ำฝรั่งค่ะ ในส่วนของเครื่องดื่ม น้ำฝรั่งรสชาติดีค่ะ ส่วนน้ำมะนาว... พี่แกคั้นแบบ... มะนาวพี่แพง พี่ต้องคั้นไปถึงเปลือก... อยากบอกพี่ว่า ขมค่ะ = =






เป็นครั้งแรกที่มาร้านอาหารแล้วแทบจะไม่ต้องรออาหารเลย อาหารลงเร็วมากกกกกกก ที่สำคัญคือ มันมาในเวลาใกล้เคียงกันสุดๆ คือไม่ได้ค่อยๆทยอยเสิร์ฟเลย มาทีเดียวเต็มโต๊ะ



พออาหารถูกวางลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เราก็รีบเก็บภาพกันอย่างรวดเร็วและเริ่มตักชิมทันทีค่ะ อันแรกที่เนมีกินก็นี่เลยค่ะ น้ำพริกอ่อง บอกก่อนว่าจริงๆแล้วที่วันนี้มากินอาหารเหนือ เป็นเพราะว่าเนมีอยากกินน้ำพริกอ่องมาหลายวันแล้วนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น มาแล้วเราต้องรีบตักตวงทุกอย่างที่เราต้องการค่ะ ชิมไปคำแรก ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ อร่อยๆ หวานๆเปรี้ยวๆตามรสของมะเขือเทศ(เนมีชอบมะเขือเทศ = =) ชอบมากเลยค่ะ จานนี้เนมีไลค์ กินได้ทั้งกับผักลวกและแคบหมูเลยนะคะ :)



ต่อมาก็ลาบคั่วค่ะ ครั้งแรกที่เนมีกินลาบคั่วคือตอนที่เนมียัง'ละอ่อน'กว่านี้มากค่ะ ครั้งนั้นลูกพี่ลูกน้องซื้อมาฝาก หลังกินครั้งนั้นก็ติดใจมากเลยค่ะ แต่ช่วงที่อยู่ภูเก็ตมันหาลาบคั่วกินไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่ ลาบ ก็จะเป็นลาบทั่วๆไป ลายหมู ลาบไก่ ว่ากันไปค่ะ วันนี้เห็นลาบคั่วอยู่ในเมนู ก็เลยสั่งมา ผลคือ... ก็... ก็อร่อยนะ แต่กลิ่นสมุนไพรมันแรงไปนิดนึง เนมีเลยไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่(แต่ก็กินหมดอยู่ดี) แต่พี่อู๋จะชอบอะไรที่มีกลิ่นพวกเครื่องสมุนไพรอย่างพวกกลิ่นตะไคร้ ใบมะกรูด จานนี้ก็เลยถูกใจพี่อู๋



ถัดมาเป็นตำซั่วค่ะ ที่สั่งมาเป็นตำซั่วปูปลาร้า ให้เส้นเยอะเVออออออร์!! เนมีชอบกินปลาร้า พวกตำปลาร้า ตำป่า ตำหอยดอง ซุบหน่อไม้ อะไรที่มันใส่น้ำปลาร้า เนมีกินหมด ปัญหาคือ ที่บ้านเนมีไม่มีใครกินปลาร้าเป็นเลย เพราะฉะนั้นถ้าเนมีไปกินกับพ่อแม่และพี่ๆก็จะต้องสั่งอย่างอื่น เพราะจะได้กินด้วยกันได้ทุกคน วันนี้เลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะมากับคนที่กินปลาร้าเป็นเหมือนกัน เลยไม่ต้องกลัวว่าสั่งแล้วจะต้องรับผิดชอบคนเดียวเลย รสชาติของจานนี้ก็... ส่วนตัวคิดว่าใสไปหน่อย น้ำปลาร้าไม่เข้มข้น น่าเสียดายเล็กๆ แต่ก็ดีตรงที่คนที่ไม่เคยทานหรือคนที่ทานไม่เป็นก็น่าจะทานได้ง่ายขึ้นค่ะ



กินจานเผ็ดๆกันมาตลอด เราก็ต้องมาขอแก้เผ็ดกันหน่อยกับเมนู ไก่ทอด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่(แต่เนมีไม่จิ้ม - -) ที่ร้านเค้าจะหั่นมาให้นะคะ เนมีหยิบมา 1 ชิ้น... สัมผัสถึงความกรอบค่ะ รีบฉีกหนังไก่ทอดเก็บไว้กินเป็นคำสุดท้าย(ฮาาา) อร่อยมากๆ กรอบนอกนุ่มใน กรอบแบบ... กรอบ... คือไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่คือมันกรอบจริงๆ กินกับข้าวเหนียว(ซึ่งที่ร้านจะมีให้เลือกว่าจะเอาข้าวเหนียวธรรมดาหรือจะเอาข้าวกล้องเหนียว เนมีเลยเลือกข้าวหล้องเหนียวไป เพื่อสุขภาพนิดนึง) ใส่ปากเข้าไปพร้อมๆกัน อื้มมม มันใช่อ้ะ!!!!! จานนี้... Recommended!!!



เมื่อเราแก้เผ็ดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาลุยอาหารเผ็ดๆกันต่อ กับตำขนุน เมนูนี้มีกลิ่นสมุนไพรมาอีกแล้ว T-T แต่จานนี้เนมีชอบนะ รสชาติมันออกมันๆดี กินแล้วเพลินค่ะ กินไปซักพัก พี่อู๋ก็ถามว่า ตำขนุนนี่มันใช้ส่วนไหนของขนุนเหรอ ก็เลยมีเกร๊ดความรู้เล็กๆมาฝากกันค่ะ ตำขนุนก็คือการนำส่วนเนื้อของขนุนอ่อนๆ โดยที่เนื้อยังเป็นสีม่วงนะคะไปต้มให้สุก โขลกเครื่องแกงสำหรับตำขนุนให้ละเอียด เอาขนุนอ่อนที่ต้มแล้วลำไปตำ ใส่มะเขีอเทศลงไปตำพอแตก(บางสูตรก็ไม่ใส่มะเขือเทศ) แล้วก็เอาลงไปผัดให้มะเขือเทศสุกก็ตักขึ้นจานตกแต่งได้แล้วค่ะ :)



หลังจากที่เรากินอาหารจานหลักกันไปจนอิ่มแล้ว เราก็ต้องเอาของหวานเข้าไปล้างปากกันหน่อย ก็เลยเลือกสั่งข้าวเหนียวมะม่วงมากันค่ะ มะม่วงอร่อยเVอร์!! หวานมากกก ที่ถูกใจที่สุดคือ ร้านนี้ให้มะม่วงมาทั้งลูก เม็ดมะม่วงก็เอามาเสิร์ฟด้วย เหมือนรู้ใจเลยว่าเราชอบดูดเม็ดมะม่วง :)
สำหรับจานนี้ ใครชอบมะม่วงหวานต้องชอบแน่นอนค่ะ เนื้อมะม่วงนุ่มๆ หอมๆ หวานๆ กินกับข้าวเหนียว โรยด้วยถั่วทอง(ถั่วเขียวทอด)หอมๆ กรอบๆ เข้ากั๊นนนน เข้ากันค่ะ


เอาล่ะค่ะ ในที่สุดพวกเราก็อิ่มกันเต็มที่ ทีนี้เราก็ถึงเวลาจ่ายเงินกันล่ะค่ะ ครั้งนี้เนมีไม่ได้ถ่ายบิลมาให้ดู(เพราะลืม แหะๆ - -") แต่ยอดรวมทั้งหมดก็อยู่ที่ 497 บาทค่ะ(จำได้ๆ ^^) ก็คิดว่าประมาณ 500 บาท ถ้าหาร 2 ก็คนละประมาณ 250 บาทค่ะ ร้านนี้ถือว่าไม่แพงเกินไป รสชาติใช้ได้ บริการโอเค บรรยากาศก็ผ่านค่ะ เหมาะสำหรับวันพักผ่อน หรือใครที่คิดจะพาครอบครัวไปนั่งทานอาหารร่วมกันก็โอเคเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับร้าน เฮือนลำพูน ส่วนตัวเนมีคิดว่าน่าจะได้กลับไปกินอีก และสำหรับผู้อ่านทุกคนนะคะ ขอขอบคุณมากๆเลยที่ติดตามหรือเข้ามาอ่าน ถ้าใครสนใจอยากจะมาร่วมแจมหรือมีกิจกรรมอะไรสนุกๆหรือร้านอาหารน่าสนใจก็สามารถแนะนำเข้ามาได้ หรือไปด้วยกันเลยก็ดีค่ะ :P ยังไงวันนี้ก็... ขอบคุณมากนะค้าาาา :)

วันนี้ขอลากันด้วยภาพฝีมือพี่อู๋นะคะ
(พี่อู๋บอกว่า ดูดีเป็นหย่อมๆ... หย่อมที่ไม่โดนแสง - -)


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนะคะ มีอะไรก็แนะนำกันได้ค่ะ :)
เนมี
( ใครว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม Facebook ของเนมีได้นะคะ

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

Namee+Auu 3 years anniversary @สวนทิพย์ ปากเกร็ด

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ต้องขออภัยอย่างมหาศาลที่ไม่ได้อั๊ปเดทบล็อกมาเป็นเวลานานนนนนนน เนื่องจากช่วงปิดเทอมเนมีกลับบ้านที่ภูเก็ต แล้วก็ดันฉลาดมากไปหน่อย ลืมพกกล้องไปด้วย ก็เลยไม่ได้เอาอะไรมาฝากทุกคนเลย(T^T)
ส่วนวันนี้ ก่อนที่เนมีจะพาเพื่อนๆไปรู้จักร้านอาหาร ขออนุญาตบอกทุกคนก่อนว่า วันนี้(11/1/13)เป็นวันครอบรอบ 3 ปีที่พี่อู๋กับเนมีเป็นแฟนกัน!!(ดีใจๆ ><) ดังนั้น วันนี้เนมีก็เลยไปฉลองวันครบรอบกับพี่อู๋ในบรรยากาศดีๆท่ามกลางสวนสวย ร่มรื่น ติดแม่น้ำเจ้าพระยาที่ร้าน"สวนทิพย์"ค่ะ :)

บริเวณสวนของร้าน สวนทิพย์ ดูมีสเน่ห์มากค่ะ
ร้านสวนทิพย์ ตั้งอยู่ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี วิธีเดินทางแนะนำเป็นรถยนต์ส่วนตัว เรือ หรือแท็คซี่จะสะดวกที่สุดค่ะ ถ้าใครอยากมาทางเรือก็ขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ส่วนใครที่มาด้วยรถก็ให้ใช้ทางด่วนมาลงที่แจ้งวัฒนะ มาทางปากเกร็ด เมื่อผ่านห้าแยกปากเกร็ดก็เข้ามาทางตลาดปากเกร็ดเกือบถึงท่าน้ำ เลี้ยวเข้าซอยแจ้งวัฒนะปากเกร็ด 3 เข้าซอยไปประมาณ 1.5 กม. ร้านอยู่ซ้ายมือค่ะ
เวลาเปิดทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น.

อย่างที่บอกไปก่อนแล้วนะคะ ว่าร้านที่ไปวันนี้ชื่อร้าน "สวนทิพย์" ดังนั้นภายในร้านก็ต้องมีการจัดสวนที่สวยงามแน่นอนค่ะ ตั้งแต่เดินเข้าร้านมานี่ อยากบอกว่าสวนของร้าน"งามมากกกก"
เมื่อเดินเข้ามาถึงส่วนของห้องอาหาร ก็จะมีพนักงานเดินมาต้อนรับ ซึ่งพนักงานจะจัดหาที่นั่งให้เราโดยเราสามารถบอกทางร้านได้ค่ะว่าอยากนั่งโซนไหน ของเนมีวันนี้ขอไปนั่งด้านนอก ติดริมแม่น้ำค่ะ :)

อันนี้ให้เพื่อนๆได้เห็นบรรยากาศตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านเลยนะคะ

เข้ามาจากทางหน้าร้าน จะเจอป้ายร้านเล็กๆน่ารักๆก่อนค่ะ

ต่อไปก็จะเป็นบรรยากาศภายในร้านนะคะ ตั้งแต่ด้านหน้า ไล่ไปถึงด้านหลังที่เป็นโซนริมแม่น้ำค่ะ
บรรยากาศในร้าน เดินเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนกำลังไปเที่ยวน้ำตก

เข้าไปอีกนิด ก่อนถึงลานหญ้าเล็กๆ

บริเวญลานหญ้า มีศาลาเล็กๆ สำหรับใครที่อยากมาสวีทในบรรยากาศหวานๆนะคะ :)

ตรงนี้จะเป็นโซนของห้องอาหาร คือจะเป็นโต๊ะแบบอินดอร์ค่ะ

เดินเลยห้องอาหารมา จะเป็นลานหญ้ากว้างๆ และสระบัวค่ะ ด้านหลังสระบัวจะมีบริเวณที่สามารถใช้เป็นเวทีริมน้ำได้ด้วยซึ่งโซนนี้จะเหมาะกับการจัดปาร์ตี้แบบเอาท์ดอร์ค่ะ


ระหว่างเดินบนสะพานข้ามสระบัว ด้านขวาจะเป็นที่นั่งบนศาลายกพื้นค่ะ

และในที่สุดก็มาถึงศาลาริมแม่น้ำ และนี่เป็นโต๊ะที่เราเลือกนั่งค่ะ โดยเราเลือกได้นะคะว่าจะนั่งโต๊ะหรือนั่งพื้น แต่เนมีขอนั่งพื้นค่ะ ได้บรรยากาศดี :)


อันนี้เป็นวิวที่จะเห็นได้จากศาลาที่เนมีนั่ง ที่เห็นนั้นเป็นที่นั่งติดริมน้ำค่ะ ดูสบายๆดีเหมือนกันนะคะเนี่ย

หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ทางร้านก็จะเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้เราตามจำนวนที่นั่งนะคะ


การได้สูดบรรยากาศสดชื่นตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านจนถึงโต๊ะ แล้วก็ยังได้ดูวิวแม่น้ำ อยากบอกว่ารู้สึกดีมากๆเลยค่ะ


และแล้วก็ได้เวลาสั่งอาหารกันนะคะ รูปที่เอามาให้ดูนี้เป็นหน้าตาของเมนูอาหารด้านนอกและด้านในแบบคร่าวๆนะคะ
เมนูที่สั่งวันนี้มีทั้งหมด 5 อย่าง(ไม่รวมของหวาน)นะคะ ซึ่งก็มี ข้าวตังหน้าตั้ง กระทงทอง ประทัดลมกุ้ง แกงขี้เหล็กหมูย่าง และปลากระพงเจี๋ยนน้ำมะขามค่ะ
เครื่องดื่มที่สั่งมาวันนี้ เราเลือกดื่มเป็นน้ำสมุนไพรกันทั้งคู่ ของพี่อู๋เป็นน้ำตะไคร้ และของเนมีเป็นน้ำมะตูมค่ะ



ระหว่างที่รออาหาร เราก็เลยไปเดินเล่นดูนู่นชมนี่กัน ก็เลยได้ไปเจอกับพวกพ้องที่ด้านล่างของท่าน้ำ... ตัวใหญ่เVอร์!!
ตอนแรกที่เห็นตกใจมาก!! คิดว่าโชคดี ได้เจอจระเข้เกยตื้น = = แต่เราก็เป็นคนชอบสัตว์ พอรู้ว่าไม่ใช่จระเข้ ก็เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายก่อนที่มันจะหนีลงน้ำซะเลย
ถ้าใครที่ไปแล้วเจอแบบนี้ แนะนำว่าเพื่อนๆอย่าตกใจจนวิ่งกระเจิงนะคะ เพราะจริงๆแล้วสัตว์พวกนี้ก็กลัวคนเหมือนกันค่ะ พอมันเห็นพวกเราเดินเข้าไป มันก็รีบหนีลงน้ำเลยค่ะ :)


หลังจากเราไปถ่ายภาพจระเข้(?)เกยตื้นมากแล้ว ไม่นานอาหารก็เริ่มมาค่ะ ประเดิมจานแรกกับข้าวตังหน้าตั้ง เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่ม





เอาเข้าปากไปคำแรก อื้มมม!! รสชาติงามมม!! งามมากจนต้องโทรไปอวดแม่ เนื่องจากแม่ก็ชอบกินข้าวตังหน้าตั้งเหมือนกัน(ล่าสุดที่ไปกินกับแม่ที่ร้านอาหารร้านหนึ่งที่ภูเก็ต เจอข้าวตังเหนียวเVอร์ แม่บอกว่าฟันปลอมจะหลุด!!)

จานต่อมาเป็นกระทงทอง เนมีเพิ่งรู้ว่าเด็กๆสมัยใหม่ไม่ค่อยรู้จักอาหารจานนี้ซะแล้ว ซึ่งน่าเสียดายมากๆ :(
กระทงทองนี่จัดเป็นอาหารว่างของไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนของไส้ก็จะมีหลายแบบ แล้วแต่สูตรของแต่ละบ้านนะคะ สูตรของทางร้านสวนทิพย์ ไส้กระทงก็จะออกรสประมาณลาบน่ะนะคะ ซึ่งพอกินกับกระทงกรอบๆแล้ว รสชาติเข้ากันได้ดีมากเลยค่ะ จานนี้ Recommended!!



ระหว่างที่นั่งทาน 2 จานแรกกันอย่างสบายอารมณ์ อีก 2 จานก็มาเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ 2 ที่ค่ะ



จานนี้ชื่อว่า ปลากระพงเจี๋ยนน้ำมะขาม ก็จะเป็นการน้ำปลากระพงไปทอดจนสุก แล้วก็นำน้ำราดซึ่งใช้น้ำมะขามเป็นส่วนประกอบมาราดลงบนปลาทอดค่ะ ส่วนตัวแล้วเนมีชอบจานนี้เพราะเนมีเป็นคนติดรสเปรี้ยว อะไรที่มันเปรี้ยวๆเนมีก็ชอบเกือบหมดน่ะนะคะ = =" แต่พี่อู๋บอกว่าจานนี้เลี่ยนไปหน่อย เพราะน้ำที่ใช้ราดค่อนข้างมันและเหนียวหน่อยๆ(เพราะผสมแป้งมันด้วย) พี่อู๋ก็เลยเฉยๆกับจานนี้





อีกจาน(หรือถ้วย?)ที่มาเสิร์ฟพร้อมๆกันก็คือ แกงขี้เหล็กหมูย่าง ค่ะ เมนูแกงขี้เหล็กของที่ร้านจัดเป็นเมนูแนะนำ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือปลาย่างและหมูย่างนะคะ เลือกกันได้ตามชอบค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะทานรสขมของใบขี้เหล็กกันไม่ไหวนะคะ เพราะแกงขี้เหล็กที่นี่แทบไม่ขมเลยค่ะ ที่สำคัญ รสไม่เผ็ดมาก เด็กๆกินได้ค่ะ :)







ต่อมาเป็นจานปิดท้าย เป็นเมนูแนะนำที่ทานง่าย ใครๆก็ชอบค่ะ เรียกว่า ประทัดลมกุ้ง

ตอนแรกก็แอบสงสัย ว่าทำไมต้องตั้งชื่อเป็นประทัด พอหยิบขึ้นมาดูก็เลยถึงบางอ้อ ที่แท้ก็เป็นเพราะเค้าเอากุ้งแสียบไม้ ห่อด้วยแผ่นแป้ง แล้วก็เอาเส้นหมี่มาพันแป้งไว้ไม่ให้หลุดก่อนนำไปทอด ทำให้หน้าตาที่ออกมาคล้ายกับประทัดนั่นเองค่ะ เวลากินก็จะกินคู่กับน้ำจิ้มที่เสิร์ฟมาในจาน แต่ก็อร่อยทั้งตอนจิ้มและตอนไม่จิ้มนั่นแหละค่ะ



บรรยากาศเล็กๆน้อยๆระหว่างกินค่ะ

หลักฐานความอร่อย อันนี้นั่งกินประทัดลมกุ้งอยู่
พี่อู๋ถ่ายภาพแล้วบอกว่า"อุบาทมากเลยอ่ะที่รัก" เลยถามพี่อู๋กลับไปว่า "อยากเลิกกันวันครบรอบมั้ยคะ??"

เนมีชอบภาพนี้มากเลย เพราะจุดที่โฟกัสเป็นอาหารก็จริง แต่ด้านหลังเนมีก็เห็นพี่อู๋กินไปหัวเราะไป...
ซึ่งใครที่พาเด็กไปกินอะไรด้วยก็ช่วยกันห้ามด้วยนะคะ เดี๋ยวอาหารจะติดคอ = =

เนื่องจากไปกันแค่ 2 คน จึงสั่งอาหารคาวมากันแค่นี้นะคะ ซึ่ง 5 อย่างนี้ก็ทำให้เราอิ่มกันมากๆแล้วล่ะค่ะ
หลังจากอิ่มกันไปแล้ว พวกเราก็เลยสั่งของหวานมาล้างปากกันหน่อย
ถามที่ร้านว่ามีของหวานอะไรบ้าง พนักงานตอบว่า...
"ก็มีลอดช่องน้ำกระทิ สลิ่ม ทับทิมกรอบ แล้วก็ไอศกรีมกะทิรวมมิตรครับ แต่ถ้าส่วนตัวผม ผมอยากแนะนำทับทิมกรอบกับไอศกรีมกะทิรวมมิตรนะครับ เพราะทับทิมกรอบของร้านเราเนี่ย เรามีอาจารย์มาสอนทำโดยเฉพาะ เมล็ดทับทิมของเราจะปั้นได้ขนาดเล็กเกือบเท่าของจริงเลยครับ ส่วนไอศกรีมกะทินี่ ด้วนในก็จะมีทั้งเนื้อลอดช่อง ขนุน ข้าวโพด หลายอย่างเลยครับ"
ฟังพี่พนักงานพูดแล้วรู้สึกเหมือนกำลังโดนยั่วน้ำลายเลยค่ะ = =
สุดท้ายก็เลยบอกเค้าว่า "เอาไอ้ที่พี่แนะนำ 2 อย่างนั่นแหละค่ะ อย่างละที่"
อยากบอกไปถึงทางร้านนะคะว่า พี่ได้พนักงานที่น่ารักมากๆ มีเซอร์วิสไมน์ดสุดๆ ยินดีด้วยนะคะ

หลังจากสั่งไปไม่นาน ของหวานที่สั่งก็มาเสิร์ฟค่ะ
อันนี้เป็นทับทิมกรอบนะคะ พิสูจน์แล้วว่า
"เมล็ดทับทิมปั้นได้ขนาดเล็กเกือบเท่าของจริงเลย"จริงๆค่ะพี่ หนูเชื่อ

ส่วนอันนี้เป็นไอศกรีมกะทิรวมมิตร ชอบนะ แต่กินไม่ทันพี่อู๋อ่ะ -*-

หลังจากที่เสกทุกอย่างเข้าท้องไปเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาจ่ายเงินกันล่ะค่ะทีนี้ ซึ่งร้านนี้มีความจริงที่น่ากลัวรอพวกเราอยู่นะคะ(หัวเราะเศร้าๆ) เพราะราคามาทั้งหมดคือ 1,738 บาท ซึ่งสำหรับ 2 คนแล้ว ก็จัดว่าโหดพอดูเลยล่ะค่าาา แต่ก็นะ!! ถือว่านานๆกินที ยังไงซะวันนี้ก็เป็นโอกาสพิเศษของเรา ก็เลย... เฮ้อออ ไม่พูดต่อดีกว่า T-T


หลังจากจ่ายเงิน(T-T)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เลยไปเดินเล่นรอบๆกันหน่อย พี่อู๋น่ารักมาก คอยช่วยถ่ายรูปให้ตลอดเลย ขอบคุณนะคะ :)

อันนี้เราถ่ายเองนะ มีหลายตัวมาก แถมอยู่กันนิ่งๆเหมือนของปลอมเลย
ตอนแรกก็คิดว่าของปลอม แต่พอลองจับแล้วมันก็ตกใจว่ายน้ำหนีไปเลยอ่ะ เค้าขอโทดดดด T-T

ก่อนถึงห้องอาหารจะมีชิงช้าอยู่ พี่อู๋ก็เลยจัดไปตอนนั่งเม้ามอยอยู่เลย

ชอบภาพนี้มากๆเลยค่ะ!! พี่อู๋เดินตามหลังแล้วบอกว่า หันมาหน่อยยยย
พอหันไปก็เลย... :)

อันนี้เป็นที่นั่งเหมือนศาลาเล็กๆ(มากๆ)ริมน้ำนะคะ
มองไปจะเห็นสะพานที่ข้ามไปก็จะเป็นเหมือนบ้านพัก คาดว่าน่าจะเป็นของพนักงาน

เป็นไงบ้างคะกับร้านสวนทิพย์ บรรยากาศดี อาหารรสชาติดีใช้ได้ค่ะ ส่วนพนักงาน... ดีเVอร์!!!!! ยังไงก็ลองไปใช้บริการกันได้นะคะ ใครที่จะไปทานทั้งไปเป็นคู่ ไปเป็นกลุ่ม ไปเป็นครอบครัว รวมถึงใครที่สนใจติดต่อสถานที่จัดเลี้ยงก็สามารถโทรจองโต๊ะหรือจองสถานที่ก่อนได้นะคะที่เบอร์ 025834540-2 และเบอร์ 025833748 ค่ะ
สำหรับทุกคนที่ได้เข้ามาดู มาอ่านหรือแนะนำให้เพื่อนอ่าน เนมีต้องขอขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยกันติดตามบล็อกเล็กๆของเนมี ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ติชมกันได้นะคะ ส่วนใครที่ชอบก็กด +1 ที่ด้านล่าง(เกือบ)สุดของจอเป็นกำลังใจให้เนมีได้ หรือถ้าใครที่มีแอคเค้าท์ของกูเกิ้ล จะช่วยกดติดตามเลยก็จะยิ่งขอบคุณเป็นพิเศษค่ะ(ฮาาา) ยังไงก็ ขอบคุณมากๆๆๆอีกครั้งค่าาา


Special Thanks To : +Kritsadee Tianchanachaiya 

ขอบคุณทุกคนที่ได้แวะเวียนเข้ามาในบล็อกนะคะ
เนมี
( ใครว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม Facebook ของเนมีได้นะคะ