วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

ลุยกิน ลุยเที่ยว @สวนผึ้ง... Part 1 [บุกทะเลบางขุนเทียน แวะทานอาหารร้าน 'นาซีฟู๊ด']

สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากที่อู้ไปหลายวัน(อีกแล้ว) เนมีก็ได้ฤกษ์ขยันสักทีนะคะ คราวนี้จะมานำเสนอร้านอาหารหลายร้านเลยค่ะ ซึ่งร้านที่จะนำเสนอต่อไปนี้จะเป็นบรรดาร้านที่เนมีได้ไปแวะทานระหว่างทางที่จะไปเที่ยวสวนผึ้งกับครอบครัวพี่อู๋นะคะ



วันนี้ ร้านที่เราจะพูดถึงกันเป็นร้านที่ยังอยู่ในเขตกรุงเทพก่อนนะคะ เป็นหนึ่งในบรรดาร้านอาหารริมทะเลบางขุนเทียน ชื่อว่าร้าน 'นาซีฟู๊ด' ค่ะ

จริงๆแล้ว แถวๆนั้นก็จะเป็นเหมือนแถบอาหารทะเลนะคะ คือจะเป็นร้านติดๆๆๆกัน เรียงไปเรื่อยๆ ใครที่ไป อาจจะไม่แวะร้านนี้ แต่ไปแวะร้านอื่นก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ เพราะของที่ขายก็จะเหมือนๆกัน ร้านติดกัน เข้าใจว่ามันทำให้ลำบากใจในการเลือกพอสมควรค่ะ


พอเราเดินเข้าไปยังร้านใดร้านหนึ่ง สภาพที่เราจะเห็นคือ อาหารซีฟู๊ดวางขายเรียงกันเป็นตับไปทุกร้าน ตามรูปที่เห็นทางซ้ายเนี่ยแหละนะคะ(คลิกขึ้นมาดูเป็นภาพใหญ่ได้ค่ะ และต้องขอโทษด้วยที่ครั้งนี้ถ่ายมาไม่ชัดค่ะ) เราสามารถเดินทะลุร้านกันได้ค่ะ พ่อค้าแม่ค้าเค้าไม่ถือเพราะคงเป็นปกติที่ลูกค้าจะเดินดูไปเรื่อยๆค่ะ ส่วนวันที่เนมีไป พวกเราเลือกร้านนาซีฟู๊ดเพราะครอบครัวพี่อู๋เคยมาทานแล้วถูกใจค่ะ




เมื่อเข้าไปในร้าน พวกเราเลือกโต๊ะติดริมระเบียงค่ะ ซึ่งก็ทำให้ได้เห็นบรรยากาศของทะเลบางขุนเทียนกันนะคะ

ทะเลบางขุนเทียนและทะเลอื่นๆในกรุงเทพส่วนใหญ่จะไม่เหมือนทะเลทางภาคใต้ตรงที่ ส่วนใหญ่ทะเลที่นี่จะเป็นทะเลโคลนค่ะ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ส่วนตัวเนมีเองก็ชอบทะเลที่ภาคใต้มากกว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวเองเป็นคนภูเก็ต ซึ่งคุ้นเคยกับทะเลที่มีหาดทรายขาวๆ น้ำทะเลสวยๆ ลงไปเล่นน้ำกันได้สบายๆ ซึ่งเนมีว่ามันสวยและดูสบายตากว่ากันมากเลยค่ะ

เข้ามานั่งในร้านแล้ว จะไม่สั่งอาหารก็กะไรอยู่นะคะ(ภาษาดูเป็นกุลสตรีไทยดีเนอะ) เราก็เริ่มสั่งเลยค่ะ สั่งไปหลายอย่าง ซึ่งเราก็ไปเลือกจากวัตถุดิบที่ทางร้านมีขายอยู่หน้าร้านนั่นล่ะค่ะ วันนั้นอาหารที่สั่งกันไปก็ได้แก่ หอยนางรมสด หอยหลอดผัดเผ็ด หอยหวานเผา หอยแครงลวก... หอยเยอะเนอะ ต่อค่ะ แล้วก็มีปูดำต้ม และสุดท้าย ไข่แมงดาค่ะ... ดูซิ แต่ละอย่าง จะหน้าตาน่าทานขนาดไหน :)

อันนี้ปูดำต้ม... หรือนึ่ง... ไม่มั่นใจค่ะ แต่อร่อย :P

ส่วนอันนี้เป็นของโปรดของเค้า(แอ๊บแบ๊วนิดนึง) หอยนางรมสด ใส่น้ำพริกเผา กระเทียมเจียว อื้มมม

อันนี้น้าผึ้ง(น้าของพี่อู๋)อยากทาน หอยหลอดผัดเผ็ด รสชาติงามมมค่ะ อร่อยๆ

ส่วนนี่เป็นหอยหวานเผา บอกตามตรงว่าเป็นครั้งแรกที่ได้กินหอยหวานค่ะ หวานสมชื่อ
ถ้าเป็นที่ภาคใต้ เราก็จะมีที่คล้ายๆกันก็คือ หอยชักตีนลวก แต่จะต่างกันที่ หอยหวานจะเนื้อแน่นและเหนียวกว่าค่ะ

จานต่อมา ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีกับหอยแครง ซึ่งบางที่ก็เอาไปเผาหรือคั่ว แต่ครั้งนี้ของเราเป็นเวอร์ชั่นต้มค่ะ

และสุดท้าย เมนูสุดยอด ไข่แมงดาค่ะ
ปกติเวลาอยู่ที่บ้านจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ทาน เพราะแม่เนมีไม่ค่อยชอบ
(แม่บอกว่ามันมีพิษ ซึ่งก็เป็นปกติที่แม่จะห่วงลูกล่ะนะคะ :) ) แต่... มันอร่อยนี่เนอะ!! :P

เนี่ยล่ะค่ะ มื้อแรกก่อนวันเดินทาง อิ่มอร่อยกันทุกคนค่ะ ส่วนเรื่องราคา ทั้งหมดก็ 1,545 บาทค่ะ(ไปทานกัน 6 คน ก็ตกคนละประมาณ 258 บาทนะคะ) ซึ่งมื้อนี้ก็ได้พ่อพี่อู๋เลี้ยงนะคะ ก็ต้องขอขอบคุณมากค่ะ :)

ทีนี้มาดูภาพรวมของร้านนาซีฟู๊ดกันหน่อยนะคะ ส่วนของรสชาติ(ส่วนตัวชอบอาหารทะเลซะด้วย) ก็ให้เป็น 9/10 ค่ะ ด้านการบริการ ทางร้านเอาใจใส่ลูกค้าดีค่ะ ได้ไป 9/10 เช่นกันค่ะ บรรยากาศให้ 8/10 นะคะ ส่วนความสะอาดขอให้แค่ 7/10 ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับร้านอาหารทะเลที่คนกรุงเทพฯไม่ต้องไปหาทานตามต่างจังหวัดไกลๆแบบนี้ ยังไงถ้าใครอยากทานอาหารทะเลที่สด รสชาติดีรวมถึงราคาไม่แพงเกินไปก็ลองไปทานกันได้ที่ริมทะเลบางขุนเทียนนะคะ รับรองว่ารสชาติถูกปากหลายๆคนเลยล่ะค่ะ

ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ :)
เนมี 
( ใครว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม Facebook ของเนมีได้นะคะ )

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

ไปสัมผัสความหอม นุ่ม ละมุนละไมในงาน "The Milk Gala by Foremost Yummy"

สวัสดีค่ะ คราวนี้กลับมาอั๊ปเดทเร็วหน่อยนะคะ เนื่องจากเนมีได้มีโอกาศไปร่วมกิจกรรมพิเศษสุดประทับใจกับนาย 'Skud+' เพื่อนและช่างภาพเฉพาะกิจที่ทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ก็เลยอยากจะรีบนำความประทับใจมาส่งต่อให้ถึงผู้อ่านเร็วๆค่ะ

กิจกรรมที่จะนำมาเสนอวันนี้ก็คือ "The Milk Gala by Foremost Yummy" ซึ่งก็เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนอถึงรสสัมผัสที่น่าประทับใจของผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก Foremost นั่นเองค่ะ โดยมีคุณพิมพ์จันทร์ วิมุกตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ. ฟรีสแลนด์คัมพิน่า(ประเทศไทย) เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และผู้ที่นำเราเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความละมุนลิ้นนั้นก็เป็นคนที่หลายๆคนรู้จักกันดี นั่นก็คือ"เชฟเอียน" พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย หรือเชฟกระทะเหล็กอาหารตะวันตก(ประเทศไทย)ของเรานั่นเองค่ะ


ภายในงานก็มีบรรยากาศโดยรวมที่เรียบง่าย สบายๆ แต่ก็มีความหรูหรา หลังจากที่ได้ทำการลงทะเบียนเข้างานเป็นที่เรียบร้อย เราก็เข้ามานั่งที่โต๊ะซึ่งมีการจัดตกแต่งที่สวยงาม พร้อมด้วยขนมน่าทานอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Choux หรือที่เราเรียกกันว่าเอแคลร์, แซนด์วิช, Marble Cake, Magaroon และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งก็ขอนำรูปมาให้ดูแบบพอเป็นน้ำจิ้มๆก่อนนะคะ



นอกจากขนมที่น่าทานแล้ว ยังมีการบรรเลงดนตรีออร์เครสตร้าเพราะๆโดย BSO ตลอดงาน อยากบอกว่านักร้องเสียงดีและมีสเน่ห์มากๆค่ะ งานนี้เรียกได้ว่า นอกจากจะได้ลิ้มรสผลิตภัณฑ์ที่รสเยี่ยมแล้ว ยังเคล้าบรรยากาศชวนฝันจริงๆค่ะ



หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศเปิดงานสุดหรู ก็ถึงเวลาของช่วง Milk Testing ที่เราจะได้ทำการทดสอบคุณภาพของ Foremost Yummy กัน โดยมี 'เชฟเอียน' เป็นผู้คอยแนะนำค่ะ เริ่มกันที่ขั้นแรก 'See' คือการดูผิวสัมผัสของนมตั้งแต่ตอนที่ Foremost Yummy ถูกรินลงบนแก้ว การหมุนแก้วไปรอบๆเพื่อดูการเกาะตัวของนมบนผิวแก้ว ซึ่งก็จะเห็นได้ถึงความเข้มข้นของนม ขั้นตอนต่อมา นั่นคือ 'Sniff' หรือการสูดกลิ่นหอมละมุนอันเย้ายวนของ Foremost Yummy  และสุดท้ายคือขั้นตอนที่ทุกคนรอคอย นั่นคือ 'Sop and Swallow' คือการค่อยๆจิบช้าๆแล้วค่อยๆไล้สัมผัสของนมให้ทั่วปากเพื่อลิ้มรสนุ่มๆ หอม มัน เข้มข้นของ Foremost Yummy นั่นเองค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเนมีเป็นคนชอบนม ก็รู้สึกดีกับ Foremost Yummy มากค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Foremost Yummy Rich Plain ซึ่งเป็นนมรสจืด ส่วนใครที่ชอบช็อคโกแลต เนมีแนะนำให้ลอง Foremost Yummy for Chocolate Lover ค่ะ(แต่อันนี้เนมีไม่ค่อยลงรอยเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบนมที่มีรสหวานค่ะ แหะๆ)







ถัดจากช่วง Milk Testing ก็จะเป็นการชิมขนมคู่กับ Foremost Yummy โดยครั้งนี้ เชฟเอียนบอกว่าไม่มีการใส่น้ำตาลเพิ่มในขนม เพื่อให้เราได้สัมผัสถึงรสชาติที่เข้ากันของนมและขนม โดยขนมที่เชฟเอียนได้นำเสนอในวันนี้คือ Panna Cotta และ Brownie ซึ่งก็ใช้ Foremost Yummy เป็นส่วนประกอบในการทำค่ะ ส่วนรสชาติที่ออกมา ส่วนตัวแล้วก็ค่อนข้างจะเฉยๆนะคะ รสชาติไม่โดดเด่นเท่าไรนักค่ะ




จากการที่ได้ร่วมงานครั้งนี้ ในภาพรวมก็ถือว่าดีเลยค่ะ ทั้งธีมงาน(Theme) และการนำเสนอ รวมถึงได้รู้จักกับ Blogger คนอื่นๆ ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆครั้งหนึ่งค่ะ
ขอขอบคุณ 'พี่กิ๊ก'(monkeygig) ที่มอบโอกาศนี้ให้เนมีด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆจาก 'Skud+' เพื่อนที่น่ารักและตากล้องเฉพาะกิจของเนมีในครั้งนี้ และครั้งนี้ของลากันด้วยภาพของที่ระลึกและภาพถ่ายรวม Blogger จากพันทิปและเนมีค่ะ :)











ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนะคะ
เนมี
( ใครว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม Facebook ของเนมีได้นะคะ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

ไปแข่งกินดุ @Grillzilla

กราบสวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ ต้องกราบขออภัยอย่างสูงที่หายไปนาน เนื่องจากเป็นช่วงสอบของเนมี เนมีจึงต้องไปแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในส่วนการเรียนก่อน
สำหรับวันที่อากาศร้อนขนาดนี้ เราก็ควรจะไปหาอะไรกินกันเย็นๆใช่หรือไม่คะ?? เพราะฉะนั้นวันนี้เนมีก็เลยจะพาท่านผู้อ่านไปกินบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างค่ะ!! . . . เอ่อ... ก็... ไหนๆมันจะร้อนแล้ว... ระบบย่งระบบย่อยมันกำลังทำงานเต็มที่... เราก็ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ไปกินบุฟเฟ่ต์กันเลยแล้วกัน...

ร้านที่เนมีจะแนะนำในวันนี้เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ชื่อร้านชวนให้ไปจัดมหกรรมแข่งกินเป็นอย่างมาก ร้าน Grillzilla อยู่ที่ตลาดสามย่านค่ะ

ร้าน Grillzilla นี้ก็ไปไม่ยากนะคะ หาตลาดสามย่านให้เจอเป็นพอ เจอแล้วเดินขึ้นไปชั้น 2 เลยค่ะ ร้านจะโดดเด่นเป็นสง่ามาก ราคาไม่แพงค่ะ คนละ 299 บาท เวลาเปิดบริการจะแบ่งเป็น จันทร์ - ศุกร์ 12.00 - 22.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ 13.00 - 22.00 น.ค่ะ แนะนำให้ไปตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เพราะไม่งั้นที่นั่งเต็มค่ะ คนแน่นมากกกกก เยอะทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานเลยค่ะ



สำหรับร้าน Grillzilla เมื่อเราเดินไปถึงหน้าร้านแล้ว สิ่งแรกที่เราจะเห็นนอกเหนือจากโต๊ะหน้าร้านแล้วก็จะเป็น ป้ายเมนูหน้าร้าน เราสามารถมาเล็งของที่เราอยากกินกันได้ตั้งแต่ตรงนี้เลยนะคะ

เมื่อพนักงานหาโต๊ะให้เราได้แล้ว(หายากพอสมควร) ต่อไปก็จะเป็นเมนูแผ่นเล็ก มาพร้อมกับใบรายการ ให้เราเขียนเอง ก็ติ๊กไปว่าเราจะเอาอันนี้กี่ถาดๆนะคะ



สำหรับลูกค้าที่เพิ่งไปใช้บริการเป็นครั้งแรก ทางร้านก็จะมอบบัตรสะสมแต้มให้ค่ะ ได้แสตมป์ครบ 10 ดวงก็รับสิทธิ์กินฟรีไป 1 ท่านนะคะ





หลังจากที่สั่งกันไปเยอะแล้ว เราก็รออาหารมาเสิร์ฟ ระหว่างนี้เนมีกับพี่อู๋ก็แบ่งหน้าที่กันนะคะ โดยให้พี่อู๋ไปตักอาหารมาเพิ่ม และเนมีนั่งรอค่ะ ระหว่างนั่งรอเราก็หาได้ปล่อยเวลาไปเปล่าๆปลี้ๆไม่ เพราะไม่นาน พี่พนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟ... แต่ยังกินไม่ได้เพราะ... พี่เขาลืมถ่าน ก็เลยถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะมาให้ดูกันไปก่อน

ที่เห็นอยู่บนโต๊ะนี่คือยังมาไม่ครบนะคะ แต่ถ่ายมาให้ดูรวมๆก่อน ส่วนจะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวจะแนะนำกันอีกทีค่ะ



รอไปสักพัก ถ่านร้อนๆก็มาค่ะ และเราก็ได้รู้ว่า ร้านนี้เขาใช้เตาไร้ควันค่ะ คือ ร้อนมาก แต่ไม่มีควันขึ้นมารบกวนการกินเลย และเมื่อพี่อู๋เอาอาหารบนโต๊ะมาเพิ่มแล้ว เราก็เริ่มย่างกันเลยค่ะ





ต่อไปก็จะขอแนะนำอาหารแต่ละอย่างกันนะคะ อาหารของที่นี่ก็ค่อนข้างหลากหลายค่ะ มีทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้งขาว ปลาแซลม่อน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก รวมถึงผักต่างๆสำหรับคนรักสุขภาพด้วยค่ะ

เริ่มจากอย่างแรกค่ะ เปิดด้วยเมนูสุขภาพ กับชุดผักไร้สาร ผักไร้สารของที่นี่ก็แล้วแต่ดวงนะคะ ว่าเราจะได้ผักอะไร เพราะมาไม่ซ้ำกันเลยค่ะ ที่สำคัญ ผักกรอบมาก อยากจะเรียกพนักงานมาถามว่านี่พี่แช่ผักด้วยบอแรครึเปล่าคะ แต่คาดว่าน่าจะไม่ใช่ เพราะเขาบอกว่าไร้สาร คาดว่าน่าจะเพราะมันสดนะคะ


ต่อมาก็ยังอยู่ที่เมนูสุขภาพนะคะ เป็นฟักทองค่ะ


แล้วก็ตามด้วย เห็ดออรินจิ


แล้วก็เป็นเนื้อสัตว์นะคะ อันนี้เป็นเนื้อสันคอโคขุนค่ะ


สันคอหมูไร้สารค่ะ


หมูหมักมิโซะ


หมูสามชั้นไร้สาร



อันนี้จำไม่ได้ค่ะ หน้าตามันไม่เหมือนรูปไหนในเมนูเลย แต่จากที่กินไป คาดว่ามันน่าจะเป็นหมูสามชั้นที่เจอแต่ไขมันล้วนๆเลย ของโปรดเนมีเลย แต่จะสั่งมาเพิ่มก็สั่งไม่ถูก เพราะไม่เจอมันในเมนู


อันต่อไปเป็นของทานเล่นค่ะ ลองชิมแล้ว... คาดว่าน่าจะเป็นไก่ และเมื่อเปรียบเทียบหน้าตาของเมนูนี้กับรูปในเมนูอาหารแล้ว... มันน่าจะเป็น ไก่คาราอาเกะค่ะ


อันนี้เป็นเมนูซุปนะคะ ด้านหน้าจะเป็นซุปแกงกะหรี่ค่ะ ส่วนด้านหลังที่เห็นไม่ชัดนั่นเป็นซุปมิโซะค่ะ


ด้านล่างนี้เป็นหน้าตาของซุปมิโซะค่ะ


โซนตักซุปน่ารักมากเบรยยย


ส่วนข้างล่างเป็นหม้อน้ำจิ้ม เลือกกันไป มีหลายแบบเลยค่ะ


ต่อไปเป็นส่วนของเครื่องดื่มนะคะ ก็มีให้เลือกหลายอย่างค่ะ


ส่วนอันนี้เป็นที่เราเลือกนะคะ ด้านหลังเป็นพันช์ ส่วนด้านหน้าเป็นชามะนาวค่ะ



ก็ปิ้ง + กินกันไปเรื่อยๆค่ะ สิ่งที่น่าประทับใจของร้านนี้ สำหรับเนมีคงเป็นขนาดของอาหารแต่ละอย่าง ได้ใจมากกก ถ้ากิน 1 ชิ้นแบบไม่กัดนี่... ไม่มีพื้นที่ในปากพอจะเคี้ยวเลยค่ะ
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือ พนักงานคอยดูแลลูกค้าตลอดเวลา คือโดยปกติเราจะเห็นว่าร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ พนักงานจะไม่ค่อยมองลูกค้า แต่ที่นี่ เรียกพนักงานง่ายมาก จะสั่งเพิ่มเมื่อไหร่ พนักงานมารับใบรายการไวมาก อีกเรื่องที่ถูกใจทั้งเนมีและพี่อู๋ ซึ่งหลายๆคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับคนที่ชอบอาหารบุฟเฟ่ต์ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ปิ้งย่างหรือหม้อต้ม ทุกคนจะพูดถึงเรื่องของน้ำจิ้ม ซึ่งน้ำจิ้มเนื้อที่นี่อร่อยจริงๆ ท้าให้ไปลองนะคะ(ถ้าไม่อร่อย ให้มาเตะก้นพี่อู๋เลย) ก็นั่นล่ะค่ะ ก็ลองไปชิมกันดูได้ค่ะ :)
หมดเมนูของคาวที่เราสั่งแล้ว(ครั้งนี้ไม่ได้สั่งพวกอาหารทะเลเลย ไว้ครั้งหน้าค่อยไปลอง :) ) ก็เลยมาตบท้ายด้วยของหวานดับร้อนกันหน่อย กับไอศกรีมแบบซอฟท์ครีม หอม หวาน มัน นุ่มมมมม รสชาติงามมากกก กดมาแบบไม่เกรงใจคนอื่น แต่รสชาติไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ เป็นมื้อที่อิ่มสุดๆ และสดชื่นตอนท้าย ถือว่าแฮปปี้เอนดิ้งค่ะ

สุดท้ายก็จ่ายเงิน คนละ 299 บาท ก็ถือว่าไม่แพง แล้วก็... เรากินกันคุ้มอยู่นะคะ เพราะอาหารแต่ละอย่างที่สั่งนี่ก็อย่างละหลายจานเหมือนกัน สำหรับเรื่องรสชาติก็ให้ 9/10 เพราะทั้งอาหารและน้ำจิ้มรสชาติอร่อย บริการให้ 8/10 เพราะรวดเร็วแต่ก็มีบ้างที่ทำของหล่น บรรยากาศ 8/10 และความสะอาด(ทั้งอาหารและภายในร้าน)ให้ 9/10 ค่ะ ก็ถือว่าเป็นร้านปิ้งย่างที่ใส่ใจลูกค้ามากเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสก็จะไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ ส่วนถ้าใครว่างๆก็ลองชวนเพื่อนๆหรือคุณพ่อคุณแม่ไปทานได้นะคะ ตอนนี้ก็กำลังมีโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3 (เฉพาะวันจันทร์ - พฤหัสบดีช่วง 16.00 - 18.00 น.)อยู่ด้วย ใครว่างก็รีบไปถล่มกันนะคะ จากกันด้วยภาพบรรยากาศในร้านแล้วกันค่ะ คนเยอะมาก ที่นั่งไม่พอเลยค่ะ :)




ขอบคุณทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านทั้งคนเก่าและคนใหม่เลยนะคะ :)
( และต้องขอโทษทุกคนด้วยที่หยุดเขียนไปนาน ) 
เนมี 
( ใครว่างๆก็เข้าไปเยี่ยม Facebook ของเนมีได้นะคะ )